วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

จำแนกประเภทของการจัดทำเว็บไซต์

สำหรับ Ake Design เราได้จำแนกการจัดทำเว็บไซต์ออกเป็นประเภทต่างๆ เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการจัดทำเว็บไซต์ ว่าธุรกิจหรือความต้องการของท่านเหมาะสมกับเว็บไซต์ประเภทใดบ้าง ซึ่งการจำแนกนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็นการจำแนกเฉพาะของทาง Ake Design ครับ โดยเรียงจากปัจจัยด้านราคาและความยากง่ายตามลำดับ น้อยไปมาก ครับ

1. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์
เว็บไซต์ประเภทนี้มีการจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูล โดยมีการนำเสนอในลักษณะของ
ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจหรือองค์กร ข้อมูลสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นข้อมูลการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้น
ซึ่งมีการจัดทำในรูปแบบโชว์ข้อมูลข่าวสารที่เรียบง่ายสวยงาม ดูน่าเชื่อถือ
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Standard

2. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก
เว็บไซต์ประเภทนี้มีการจัดทำคล้ายๆกับประเภทแรก คือ มีการนำเสนอในลักษณะของ ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจหรือองค์กร แต่มีการเน้นความสวยงามเป็นหลัก มีการใช้โปรแกรมเพื่อสร้างสื่อหรือภาพเคลื่อนไหวมากขึ้นหรือเพื่อใช้ทั้งหมดเพื่อให้เว็บไซต์มีลักษณะ Interactive กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Flash

3. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทเว็บอีคอมเมิร์ช (ขายสินค้า)
เว็บไซต์ประเภทนี้โดยทั่วไป จะเป็นในลักษณะของเว็บไซต์ขายสินค้าหรือบริการและชำระเงินผ่านบัตรเครดิต มีการใช้โปรแกรมแอพพลิเคชั่นผนวกเข้าไปเพื่อเพิ่มความสามารถกับตัวเว็บไซต์ให้สามารถโต้ตอบกับยูสเซอร์มากยิ่งขึ้น มีการใช้ฐานข้อมูลในการเก็บข้อมูล
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web E-Commerce

4. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทเว็บแอพพลิเคชั่น
เว็บไซต์ประเภทนี้จะเป็นเว็บไซต์ที่มีการใช้โปรแกรมที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นของโปรแกรมและการใช้งานตามที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Application

5. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทเว็บแอพพลิเคชั่น + การนำเสนอสื่อผสม
เป็นเว็บไซต์ประเภทที่มีการใช้โปรแกรมที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะผนวกกับสื่อหรือภาพเคลื่อนไหวผสม หรือเว็บไซต์ประเภทที่ 2 + 4 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเว็บประเภทที่มีราคาสูงที่สุด
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Flash Application

ข้อมูลประเภทการจัดทำเว็บไซต์ Ake Design รับออกแบบเว็บไซต์คุณภาพ มาตรฐานสากล

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

บริการรับทำเว็บไซต์

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก และคุณสามารถเลือกได้เลยที่จะใช้บริการกับผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์รายใดก็ได้ แน่นอนว่าทุกเจ้าพร้อมให้บริการกับคุณเหมือนกันหมด แต่มีความแตกต่างอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์แต่ละเจ้าไม่เหมือนกันคือ "ผลงานเว็บไซต์ที่ออกมา" และ "การให้บริการภายหลังการขาย" เป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบ ซึ่งหากถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ให้บริการเจ้าไหนดีล่ะ ? คำถามนี้อาจจะเป็นข้อข้องใจ สำหรับผู้ที่ต้องการหาผู้ให้บริการเว็บไซต์ดีๆซักเจ้าหนึ่ง ซึ่งผมมีแนวทางในการเลือกในแบบของผมอย่างคร่าวๆดังนี้

1. ผมจะไม่เอาราคาถูกที่สุดหรือแพงที่สุดมาเป็นเครื่องตัดสินในการใช้บริการ
2. ไม่ตัดสินว่าคนใกล้ตัวที่รับทำเว็บไซต์ จะทำเว็บไซต์ให้คุณได้ดี หรือพูดคุยได้ง่ายกว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์รายอื่น
3. ไม่เอาระยะเวลาที่เปิดให้บริการหรือประสบการณ์ของผู้จัดทำเว็บไซต์มาเป็นตัวชี้วัด
4. ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตบ้างก่อนเลือกใช้บริการ (ข้อนี้แน่นอนอยู่แล้ว)
5. พยายามไม่ทำเว็บไซต์ที่ต้องติดต่อกับเอเจนซี่หรือนายหน้า หรือหากจำเป็นต้องผ่านเอเจนซี่ ควรเลือกที่ไว้ใจได้
6. อย่าคิดว่าเว็บไซต์สำเร็จรูปหรือเว็บไซต์ที่เขียนระบบขึ้นมาใหม่นั้นไม่ดี ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
7. บริการหลังการขายที่นาน ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์รายนั้นดี และถ้าไม่มีบริการหลังการขายก็ไม่ควรเลือกเลย (ตรงนี้แน่นอนอีกเหมือนกัน)
8. ผลงานให้แบบที่ชอบคือ หลักใหญ่ๆที่ใช้ในการชี้วัด

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางส่วนใหญ่ของผมอย่างคร่าวๆครับ

ที่ Ake Design เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น บริการออกแบบเว็บไซต์ จัดทำ SEO แบบครบวงจร หากท่านสนใจใช้บริการ ออกแบบเว็บไซต์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.akedesign.com

หลักการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี

การบวนการในการพัฒนาเว็บไซต์ หรือการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีนั้น เราควรจัดการระบบโครงสร้างข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยการพิจารณาโครงร่างเว็บไซต์ของเราว่าควรจะมีข้อมูลหรือการทำงานอย่างไรบ้าง ซึงเราอาจวางแผนผังโครงสร้างก่อนที่จะออกแบบเว็บไซต์ โดยเริ่มจาก

1. กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์
สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำหนดเป้าหมายเว็บไซต์ เพื่อเป็นการกำหนดแนวทางในการจัดทำเว็บไซต์ เช่น เพื่อประชาสัมพันธ์, แบ่งปันความรู้, ทำธุรกิจออนไลน์ ขายสินค้าหรือบริการ, community เป็นต้น
2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ว่าต้องการมุ่งเน้นกลุ่มผู้เข้าชมวัยใด, ผู้ชายหรือผู้หญิง, กลุ่มผู้มีฐานะดีหรือปานกลาง หากเรากำหนดได้ตรงจุดจะทำให้เราสามารถออกแบบเว็บไซต์ หรือเนื้อหาการใช้คำพูด ได้ตรงกับความตรงการของกลุ่มเป้าหมายได้
3. วางโครงร่างของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบเว็บไซต์, เนื้อหาของเว็บไซต์, ลักษณะการใช้งานของยูสเซอร์
4. ตรวจสอบองค์ประกอบอื่นๆ อาทิเช่น
- ตั้งชื่อโดเมน ลองตรวจสอบดูว่าโดเมนที่เราตั้งไปซ้ำกับคนอื่นหรือเปล่า หรือมีคนอื่นจดโดเมนก่อนหน้าเราและคล้ายๆกับที่เราตั้ง เช่น storyshop.com แต่เราไปจด storyshop.net แบบนี้อาจทำให้โดเมนเราเป็นรองได้
-การจัดหาโฮสติ้ง หากเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นต่างชาติ ก็ควรจดเช่าโฮสติ้งของต่างประเทศหรือในประเทศนั้นๆ เพื่อความเสถียร + ความเร็วที่มากกว่า
- การตั้งคำหรือ Keyword เพื่อการค้นหาใน Search Engine ก่อนที่เราจะเขียนเนื้อหาที่จะนำมาลงเว็บไซต์ เราควร ตั้ง Keyword ที่ต้องการขึ้นมาเพื่อนำไปแทรกกับเนื้อหาที่เราเขียนขึ้นมาบ้าง
5. วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งเพื่อนำมาปรับใช้แก้ไขและพัฒนา เราควรศึกษาวิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งบ้าง เพื่อนำมาปรับหรือแก้ไขเว็บไซต์ของเรา เนื่องจากในโลกของอินเตอร์เน็ตมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ หากเราหยุดในการพัฒนาเว็บไซต์ ก็อาจทำให้เราเป็นรองคู่แข่งของเราได้