สำหรับ Ake Design เราได้จำแนกการจัดทำเว็บไซต์ออกเป็นประเภทต่างๆ เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการจัดทำเว็บไซต์ ว่าธุรกิจหรือความต้องการของท่านเหมาะสมกับเว็บไซต์ประเภทใดบ้าง ซึ่งการจำแนกนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็นการจำแนกเฉพาะของทาง Ake Design ครับ โดยเรียงจากปัจจัยด้านราคาและความยากง่ายตามลำดับ น้อยไปมาก ครับ
1. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์
เว็บไซต์ประเภทนี้มีการจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูล โดยมีการนำเสนอในลักษณะของ
ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจหรือองค์กร ข้อมูลสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นข้อมูลการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้น
ซึ่งมีการจัดทำในรูปแบบโชว์ข้อมูลข่าวสารที่เรียบง่ายสวยงาม ดูน่าเชื่อถือ
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Standard
2. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก
เว็บไซต์ประเภทนี้มีการจัดทำคล้ายๆกับประเภทแรก คือ มีการนำเสนอในลักษณะของ ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจหรือองค์กร แต่มีการเน้นความสวยงามเป็นหลัก มีการใช้โปรแกรมเพื่อสร้างสื่อหรือภาพเคลื่อนไหวมากขึ้นหรือเพื่อใช้ทั้งหมดเพื่อให้เว็บไซต์มีลักษณะ Interactive กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Flash
3. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทเว็บอีคอมเมิร์ช (ขายสินค้า)
เว็บไซต์ประเภทนี้โดยทั่วไป จะเป็นในลักษณะของเว็บไซต์ขายสินค้าหรือบริการและชำระเงินผ่านบัตรเครดิต มีการใช้โปรแกรมแอพพลิเคชั่นผนวกเข้าไปเพื่อเพิ่มความสามารถกับตัวเว็บไซต์ให้สามารถโต้ตอบกับยูสเซอร์มากยิ่งขึ้น มีการใช้ฐานข้อมูลในการเก็บข้อมูล
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web E-Commerce
4. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทเว็บแอพพลิเคชั่น
เว็บไซต์ประเภทนี้จะเป็นเว็บไซต์ที่มีการใช้โปรแกรมที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นของโปรแกรมและการใช้งานตามที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Application
5. การจัดทำเว็บไซต์ประเภทเว็บแอพพลิเคชั่น + การนำเสนอสื่อผสม
เป็นเว็บไซต์ประเภทที่มีการใช้โปรแกรมที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะผนวกกับสื่อหรือภาพเคลื่อนไหวผสม หรือเว็บไซต์ประเภทที่ 2 + 4 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเว็บประเภทที่มีราคาสูงที่สุด
ชื่อประเภทเว็บไซต์ : Web Flash Application
ข้อมูลประเภทการจัดทำเว็บไซต์ Ake Design รับออกแบบเว็บไซต์คุณภาพ มาตรฐานสากล
วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552
บริการรับทำเว็บไซต์
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก และคุณสามารถเลือกได้เลยที่จะใช้บริการกับผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์รายใดก็ได้ แน่นอนว่าทุกเจ้าพร้อมให้บริการกับคุณเหมือนกันหมด แต่มีความแตกต่างอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์แต่ละเจ้าไม่เหมือนกันคือ "ผลงานเว็บไซต์ที่ออกมา" และ "การให้บริการภายหลังการขาย" เป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบ ซึ่งหากถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ให้บริการเจ้าไหนดีล่ะ ? คำถามนี้อาจจะเป็นข้อข้องใจ สำหรับผู้ที่ต้องการหาผู้ให้บริการเว็บไซต์ดีๆซักเจ้าหนึ่ง ซึ่งผมมีแนวทางในการเลือกในแบบของผมอย่างคร่าวๆดังนี้
1. ผมจะไม่เอาราคาถูกที่สุดหรือแพงที่สุดมาเป็นเครื่องตัดสินในการใช้บริการ
2. ไม่ตัดสินว่าคนใกล้ตัวที่รับทำเว็บไซต์ จะทำเว็บไซต์ให้คุณได้ดี หรือพูดคุยได้ง่ายกว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์รายอื่น
3. ไม่เอาระยะเวลาที่เปิดให้บริการหรือประสบการณ์ของผู้จัดทำเว็บไซต์มาเป็นตัวชี้วัด
4. ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตบ้างก่อนเลือกใช้บริการ (ข้อนี้แน่นอนอยู่แล้ว)
5. พยายามไม่ทำเว็บไซต์ที่ต้องติดต่อกับเอเจนซี่หรือนายหน้า หรือหากจำเป็นต้องผ่านเอเจนซี่ ควรเลือกที่ไว้ใจได้
6. อย่าคิดว่าเว็บไซต์สำเร็จรูปหรือเว็บไซต์ที่เขียนระบบขึ้นมาใหม่นั้นไม่ดี ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
7. บริการหลังการขายที่นาน ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์รายนั้นดี และถ้าไม่มีบริการหลังการขายก็ไม่ควรเลือกเลย (ตรงนี้แน่นอนอีกเหมือนกัน)
8. ผลงานให้แบบที่ชอบคือ หลักใหญ่ๆที่ใช้ในการชี้วัด
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางส่วนใหญ่ของผมอย่างคร่าวๆครับ
ที่ Ake Design เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น บริการออกแบบเว็บไซต์ จัดทำ SEO แบบครบวงจร หากท่านสนใจใช้บริการ ออกแบบเว็บไซต์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.akedesign.com
1. ผมจะไม่เอาราคาถูกที่สุดหรือแพงที่สุดมาเป็นเครื่องตัดสินในการใช้บริการ
2. ไม่ตัดสินว่าคนใกล้ตัวที่รับทำเว็บไซต์ จะทำเว็บไซต์ให้คุณได้ดี หรือพูดคุยได้ง่ายกว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์รายอื่น
3. ไม่เอาระยะเวลาที่เปิดให้บริการหรือประสบการณ์ของผู้จัดทำเว็บไซต์มาเป็นตัวชี้วัด
4. ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตบ้างก่อนเลือกใช้บริการ (ข้อนี้แน่นอนอยู่แล้ว)
5. พยายามไม่ทำเว็บไซต์ที่ต้องติดต่อกับเอเจนซี่หรือนายหน้า หรือหากจำเป็นต้องผ่านเอเจนซี่ ควรเลือกที่ไว้ใจได้
6. อย่าคิดว่าเว็บไซต์สำเร็จรูปหรือเว็บไซต์ที่เขียนระบบขึ้นมาใหม่นั้นไม่ดี ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
7. บริการหลังการขายที่นาน ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์รายนั้นดี และถ้าไม่มีบริการหลังการขายก็ไม่ควรเลือกเลย (ตรงนี้แน่นอนอีกเหมือนกัน)
8. ผลงานให้แบบที่ชอบคือ หลักใหญ่ๆที่ใช้ในการชี้วัด
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางส่วนใหญ่ของผมอย่างคร่าวๆครับ
ที่ Ake Design เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น บริการออกแบบเว็บไซต์ จัดทำ SEO แบบครบวงจร หากท่านสนใจใช้บริการ ออกแบบเว็บไซต์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.akedesign.com
หลักการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี
การบวนการในการพัฒนาเว็บไซต์ หรือการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีนั้น เราควรจัดการระบบโครงสร้างข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยการพิจารณาโครงร่างเว็บไซต์ของเราว่าควรจะมีข้อมูลหรือการทำงานอย่างไรบ้าง ซึงเราอาจวางแผนผังโครงสร้างก่อนที่จะออกแบบเว็บไซต์ โดยเริ่มจาก
1. กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์
สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำหนดเป้าหมายเว็บไซต์ เพื่อเป็นการกำหนดแนวทางในการจัดทำเว็บไซต์ เช่น เพื่อประชาสัมพันธ์, แบ่งปันความรู้, ทำธุรกิจออนไลน์ ขายสินค้าหรือบริการ, community เป็นต้น
2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ว่าต้องการมุ่งเน้นกลุ่มผู้เข้าชมวัยใด, ผู้ชายหรือผู้หญิง, กลุ่มผู้มีฐานะดีหรือปานกลาง หากเรากำหนดได้ตรงจุดจะทำให้เราสามารถออกแบบเว็บไซต์ หรือเนื้อหาการใช้คำพูด ได้ตรงกับความตรงการของกลุ่มเป้าหมายได้
3. วางโครงร่างของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบเว็บไซต์, เนื้อหาของเว็บไซต์, ลักษณะการใช้งานของยูสเซอร์
4. ตรวจสอบองค์ประกอบอื่นๆ อาทิเช่น
- ตั้งชื่อโดเมน ลองตรวจสอบดูว่าโดเมนที่เราตั้งไปซ้ำกับคนอื่นหรือเปล่า หรือมีคนอื่นจดโดเมนก่อนหน้าเราและคล้ายๆกับที่เราตั้ง เช่น storyshop.com แต่เราไปจด storyshop.net แบบนี้อาจทำให้โดเมนเราเป็นรองได้
-การจัดหาโฮสติ้ง หากเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นต่างชาติ ก็ควรจดเช่าโฮสติ้งของต่างประเทศหรือในประเทศนั้นๆ เพื่อความเสถียร + ความเร็วที่มากกว่า
- การตั้งคำหรือ Keyword เพื่อการค้นหาใน Search Engine ก่อนที่เราจะเขียนเนื้อหาที่จะนำมาลงเว็บไซต์ เราควร ตั้ง Keyword ที่ต้องการขึ้นมาเพื่อนำไปแทรกกับเนื้อหาที่เราเขียนขึ้นมาบ้าง
5. วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งเพื่อนำมาปรับใช้แก้ไขและพัฒนา เราควรศึกษาวิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งบ้าง เพื่อนำมาปรับหรือแก้ไขเว็บไซต์ของเรา เนื่องจากในโลกของอินเตอร์เน็ตมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ หากเราหยุดในการพัฒนาเว็บไซต์ ก็อาจทำให้เราเป็นรองคู่แข่งของเราได้
1. กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์
สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำหนดเป้าหมายเว็บไซต์ เพื่อเป็นการกำหนดแนวทางในการจัดทำเว็บไซต์ เช่น เพื่อประชาสัมพันธ์, แบ่งปันความรู้, ทำธุรกิจออนไลน์ ขายสินค้าหรือบริการ, community เป็นต้น
2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ว่าต้องการมุ่งเน้นกลุ่มผู้เข้าชมวัยใด, ผู้ชายหรือผู้หญิง, กลุ่มผู้มีฐานะดีหรือปานกลาง หากเรากำหนดได้ตรงจุดจะทำให้เราสามารถออกแบบเว็บไซต์ หรือเนื้อหาการใช้คำพูด ได้ตรงกับความตรงการของกลุ่มเป้าหมายได้
3. วางโครงร่างของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบเว็บไซต์, เนื้อหาของเว็บไซต์, ลักษณะการใช้งานของยูสเซอร์
4. ตรวจสอบองค์ประกอบอื่นๆ อาทิเช่น
- ตั้งชื่อโดเมน ลองตรวจสอบดูว่าโดเมนที่เราตั้งไปซ้ำกับคนอื่นหรือเปล่า หรือมีคนอื่นจดโดเมนก่อนหน้าเราและคล้ายๆกับที่เราตั้ง เช่น storyshop.com แต่เราไปจด storyshop.net แบบนี้อาจทำให้โดเมนเราเป็นรองได้
-การจัดหาโฮสติ้ง หากเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นต่างชาติ ก็ควรจดเช่าโฮสติ้งของต่างประเทศหรือในประเทศนั้นๆ เพื่อความเสถียร + ความเร็วที่มากกว่า
- การตั้งคำหรือ Keyword เพื่อการค้นหาใน Search Engine ก่อนที่เราจะเขียนเนื้อหาที่จะนำมาลงเว็บไซต์ เราควร ตั้ง Keyword ที่ต้องการขึ้นมาเพื่อนำไปแทรกกับเนื้อหาที่เราเขียนขึ้นมาบ้าง
5. วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งเพื่อนำมาปรับใช้แก้ไขและพัฒนา เราควรศึกษาวิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งบ้าง เพื่อนำมาปรับหรือแก้ไขเว็บไซต์ของเรา เนื่องจากในโลกของอินเตอร์เน็ตมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ หากเราหยุดในการพัฒนาเว็บไซต์ ก็อาจทำให้เราเป็นรองคู่แข่งของเราได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)